Tabletop RPG 101 จะเป็นชุดบทความสั้น ๆ ความที่ผมเขียนแนะนำเกี่ยวกับ Tabletop RPG ทั้งการรันเกม การเล่นเกม ในมุมมองของผม แต่สำหรับใครที่คาดหวังจะได้วิธี เทคนิค หรือสูตรสำเร็จแบบ 1 2 3 4 จงทำตามซะแล้วจะรันเกมเก่งเล่นเกมดี ข้ามมันไปได้เลยครับ เพราะผมไม่ยัดอะไรพวกนั้นเข้ามาในนี้แน่นอน
ในบทความชุดนี้ผมจะเขียนแนวคิดกับมุมมองของผมที่มีต่อการเล่นและรัน TRPG ว่าจริง ๆ แล้วผมคิดว่า “แก่น” หรือจุดที่เราต้องสนใจหลักของมันคืออะไร ส่วนเรื่องเทคนิครันเกมเล่นเกมอะไรพวกนั้น ผมมองว่ามันเป็นของที่ใครอยากฝึกมันก็ทำกันได้ทั้งนั้นล่ะ แต่ถ้าเรามองเห็นภาพใหญ่ก่อน มันก็จะช่วยให้เราเลือกฝึกจุดแข็งจุดอ่อนได้ถูกจุดมากขึ้นได้
แต่ผมจะใส่แนวคิดที่ผมมองว่า มันคือ “แก่น” จริง ๆ ของการเล่นเกม TRPG ที่จะสามารถเอาไปต่อยอดได้ในอนาคตด้วยตัวเองกัน
มาเข้าเนื้อหากันกับบทความแรกของเรากันเลย “หน้าที่ของ GM คืออะไร”
หน้าที่ของ GM ในที่นี้ผมไม่ได้หมายถึงการควบคุม NPC การทำนู่นนี่ระหว่างเกม แต่เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบ ที่ GM ควรจะมองตัวเองว่าอยู่ในบทบาทไหน
ก่อนอื่นผมจะขอแบ่งสไตล์ GM ออกเป็นสองกลุ่มก่อน เพราะถึง GM ทั้งสองประเภทจะรันเกมเหมือนกัน แต่ความรับผิดชอบหลักของ GM ทั้งสองประเภทเรียกได้ว่าต่างกันมากเลยทีเดียว
- สาย One Shot Session
- สาย Campaign
สำหรับ GM ที่รันเกมแบบ One Shot
หน้าที่และบทบาทของ GM สำหรับเกมแบบ One Shot ผมมองว่ามันคือการ เป็น GM รันเกมให้สนุก แบบมาตรฐานเลย ไม่มีอะไรซับซ้อนหรือมากน้อยกว่านั้น โดยสิ่งที่ GM ต้องใส่ใจเป็นหลักก็คือเทคนิคและความสามารถในการรันเกม ที่เริ่มตั้งแต่เตรียมเกม พูดคุยกันก่อนรันเกม ไปจนรันเกมเสร็จสิ้น ซึ้งทั้งหมดนี้มันก็เพื่อสร้างเกมสั้นในแต่ละตอนให้ออกมาน่าจดจำมีเอกลักษณ์ของมันนั่นเอง
แต่สำหรับใครที่คิดจะรัน Campaign หรือเกมยาวแล้ว คราวนี้ล่ะชีวิตคุณจะเริ่มเจอกับความซับซ้อน เพราะการรันเกมยาวแบบ Campaign ทักษะสำคัญที่ GM ต้องใช้จะแค่ไม่ใช่เทคนิคการรันอีกต่อไป แต่มันคือการ บริหารโปรเจค
ก็จริงอยู่ครับที่การรันเกมก็ยังเป็นส่วนสำคัญที่ยังขาดไม่ได้ แต่อีกหนึ่งปัจจัยหลักที่เสริมเข้ามาสำหรับเกมที่เล่นกันยาวต่อเนื่องหลายเดือนหรือเป็นปี ก็คือ “ระยะเวลา” ครับ เพราะในขณะที่เวลารันเกมจริง ๆ มันใช้แค่ 3-6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เท่านั้น แต่ทั้ง GM และ ผู้เล่น ต่างก็ต้องผูกพันกับเกมนี้ไปกันอีกเป็นเวลานานเลย และนั่นทำให้ GM ต้องโฟกัสเพิ่มในอีกเรื่องสำคัญคือ จะทำยังไงให้เราสามารถรันเกมไปต่อได้จนจบ
ปัญหาที่ทำให้เกมล่มส่วนใหญ่ก็แตกออกได้เป็นหัวข้อใหญ่ ๆ ไม่กี่หัวข้อหรอกครับ
- คนเล่นทะเลาะกันจนเกมแตก
- คนเล่นไม่ว่างมาเล่น หรือไม่ก็เบี้ยวนัด
- เกิดเรื่องเกิดราวในชีวิตจนทำให้มาเล่นด้วยกันไม่ได้อีก
- คนเล่นหรือคนรันหมดใจจะเล่นเกมนี้ต่อ
- คนรันหมดแรง หัวตัน สร้างเรื่องต่อไม่ได้
จะเห็นว่าปัญหากว่าครึ่งถึงจะทำให้เกมเรามีปัญหา แต่มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเกมเลยแถมมาจากชีวิตจริงนอกเกมทั้งนั้น ซึ่งในชีวิตผมก็มีเกมที่ล่มไปหลายเกมจากปัญหาห้าข้อนี้ให้ได้เรียนรู้กันไป ทั้งจากที่ตัวผมเองเป็นสาเหตุ หรือเกิดมาจากคนเล่น
นั่นคือเหตุผลที่ผมมองว่าการรันเกมยาวนั้น ทักษะในการบริหารโปรเจคเป็นสิ่งที่สำคัญพอกันหรือแทบจะมากกว่าความสามารถในการรันเกมเลยทีเดียว
เริ่มกันตั้งแต่กระบวนการแรกในการรับผู้เล่นเข้าเกม และปรับความเข้าใจผู้เล่นทุกคนให้ตรงกัน ซึ่งแทบไม่ต่างอะไรกับการหาคนเข้าทีมเวลาทำงาน ยิ่งทุกคนเข้าขากันได้ดี ทีมก็ยิ่งไปได้สวย ในขณะที่ถ้าเราได้ผู้เล่นที่ไม่สามารถเข้ากับคนอื่นได้มายิ่งนานวัน เกมก็ยิ่งมีแต่ปัญหาระหว่างบุคคลบนโต๊ะเกมมากขึ้นและอาจทำให้เกมเราล่มหรือมีเรื่องมีราวต้องเปลี่ยนตัวคนในกลุ่มไปในที่สุด
การบริหารจัดการเวลานัดทุกคนมาเล่นกันก็กลายเป็นเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการหาเวลาว่างตรงกันให้ได้ ทำให้ผู้เล่นล็อควันเวลาของตัวเองไว้ให้พร้อมมาเล่นเกม เพราะผู้เล่นแต่ละคนต่างก็มีชีวิตส่วนตัวของเขา บางคนมีงานด่วน มีปัญหาชีวิต มีลูกต้องเลี้ยง หรืออาจจะแค่ไม่ได้มองว่าวันเล่นเกมมันสำคัญจนต้องจัดการตารางชีวิตให้มัน การจะแก้ไขปัญหานี้ได้ก็ต้องเกิดการพูดคุยกัน ปรับความเข้าใจกันทั้งจากฝั่ง GM และผู้เล่น รวมถึงทาง GM เองก็ต้องมีความเด็ดขาดชัดเจนเวลานัดเวลาและในการตัดสินใจกำหนดวันเวลาเล่นกันด้วย ซึ่งในจุดนี้ถ้าเราได้ผู้เล่นที่มีคุณภาพสามารถคุณกันได้และเชื่อใจในการรักษาคำพูดมาแต่แรก ก็แก้ปัญหานี้ไปได้ตั้งแต่แรกล่ะครับ
ปัญหาชีวิตจริงก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ เช่นเกิดอยู่ ๆ คนเล่นต้องย้ายบ้านย้ายเมืองกระทันหัน ติดเกณฑ์ทหาร ไปบวช เปลี่ยนงานแล้วงานยุ่ง เรื่องพวกนี้ก็อาจจะเข้ามากระทบจนทำให้เราต้องดูว่าจะจัดการหาคนเพิ่มมาเล่นแทนหรือปรับเกมไปในทางไหนเมื่อเราขาดผู้เล่นบางคนไป โดยเฉพาะกับเกมที่ยึดตัวละครผู้เล่นเป็นแกนหลักของเรื่อง
สำหรับปัญหาคนเล่นคนรันหมดใจกับเกม เรื่องนี้สามารถเกิดขึ้นได้หลายทาง ซึ่ง GM ก็อาจจะต้องดูแล้วสืบไปให้ถึงต้นสายปลายเหตุของมันให้ได้ก่อนว่าทำไมคนบางคนในกลุ่มถึงไม่อยากเล่นอีก มันอาจจะเพราะเกมขาดช่วงนานไปจนเขาลืม เขามีปัญหาชีวิตส่วนตัวจนไม่มีอารมณ์เล่น เกมตอนล่าสุดมันจบในแบบที่ทำให้เขาไม่อยากเล่นต่อ หรือเป็นเราเองที่รันเกมไม่ดี หลังจากทราบปัญหาแล้ว GM ก็จะต้องใช้ความสามารถส่วนตัวในการแก้ไขปัญหาให้ถูกจุด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทั้งนอกหรือในเกม เพื่อให้เกมสามารถเดินต่อไปได้
และปัญหาสุดท้าย คนรันหัวตัน หมดแรงจะรันต่อ บางทีปัญหานี้ก็เกิดขึ้นได้นะโดยเฉพาะกับเกมที่เล่นกันนานมาก ๆ บางทีเราก็หมดมุกหมดลูกเล่น ในส่วนนี้เราก็คงทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะครับนอกจาก ไปพัก ไปนอนเล่น ลืม ๆ เรื่องเกมไปบ้าง หาเสพสื่อรอบตัวสักหน่อย เบรคเรื่องเกมไว้รอสมองเราพร้อมกลับมารันต่อกันอีกทีในวันหน้า
ก็เท่านี้ล่ะครับกับหน้าที่ของ GM ในเวลารัน Campaign ยาวที่มีความคล้ายคลึงกับ Project Manager พอสมควรและต้องใช้ทักษะในด้านอื่นเข้าร่วมด้วยนอกจากการรันเกม
อย่างที่บอกว่าบทความนี้ผมไม่ได้มีคำตอบ หรือสูตรสำเร็จในการแก้ไขปัญหาอะไรมาให้ แต่ผมแค่อยากมาชี้ให้เห็นนิดหน่อยว่า การรัน Tabletop RPG Campaign นึงนั้น มันใช้ทักษะหลายด้านที่ GM ควรจะใส่ใจและพัฒนามากกว่าแค่เทคนิคการรันเกม ซึ่งที่เหลือก็อยู่ที่ประสบการณ์ส่วนตัวของทุกคนแล้วล่ะครับ ที่จะค่อย ๆ พัฒนา ค่อย ๆ ปรับกันไปจนเรากลายเป็น GM ที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต