เทศกาลดนตรีครั้งแรกในประเทศอังกฤษ

“ตกรถไฟ” คือประสบการณ์แรกของเราที่ได้เจอในการไปงานเทศกาลดนตรีในอังกฤษ... ตั้งแต่ก่อนที่เราจะมาเรียนต่อที่อังกฤษเราก็ได้ยินคนพูดถึงเทศกาลดนตรีที่นี่มาตลอดจนเราเองก็ตั้งใจไว้ว่าก่อนกลับไทยจะต้องลองมางานเทศกาลที่นี่สักครั้งในชีวิตให้ได้ แต่ใครจะไปรู้ว่าแทนที่เราจะได้มาเที่ยว พักผ่อนฟังเพลง เรากลับต้องมาเปิดร้านผัดหมี่ขายอาหารจีนกลางงานเทศกาลแทน เรื่องทั้งหมดมันเริ่มจากการที่เรานั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศแล้วหัวหน้าเราก็ถาม “โป๋ ทำอาหารเป็นไหม” เราก็ตอบทันทีว่าเป็น แล้วรู้ตัวอีกทีสามวันต่อมาเราก็นั่งอยู่บนรถไฟเดินทางไปทำอาหารในงานเทศกาลแล้ว การเดินทางครั้งแรกของเราเป็นรถไฟเที่ยวดึกเพื่อตามทีมชุดแรกที่ขับรถขนของไป แต่เราไม่ได้เดินทางคนเดียวเพราะเราต้องสาวเสิร์ฟสองคนไปกับเราด้วยเพราะคนหนึ่งยังอายุน้อยแถมยังไม่กล้าและไม่เคยเดินทางคนเดียวตอนกลางคืนมาก่อนส่วนอีกคนก็ติดธุระจนเดินทางไปพร้อมกับรถขนของไม่ได้ แล้วน้องผู้ไม่เคยเดินทางมาก่อนก็ดันเข้าใจว่าเวลาบนตั๋วรถไฟไม่ใช่เวลารถไฟออก แต่คือเวลาที่ต้องมาถึงสถานี ซึ่งก็ทำให้เราที่ยืนรออยู่ตกรถไฟตามระเบียบ จะให้จ่ายค่ารถไฟใหม่เราก็ไม่อยากทำเพราะขี้เกียจคุยกับที่บริษัทแล้วอธิบายเหตุผล แถมอาจจะทำให้น้องคนนั้นโดนตำหนิหรือไม่เราก็ต้องรับผิดชอบทุกอย่างเองแทนด้วย ตัวดีที่พาตกรถไฟกันหมด สุดท้ายทางเลือกที่เราทำก็คือ กระโดดขึ้นรถไฟคันอื่นสองต่อเพื่อเดินทางไปที่หมายให้ทันเวลาแทนแล้วก็หวังว่าคนตรวจตั๋วจะไม่มาจับเราว่าตั๋วที่มีไม่ใช่ของรถไฟขบวนนี้ สุดท้ายเราก็มาลงที่เมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้กับจุดหมายไปไม่ไกล แต่เวลาตอนนั้นก็เลยเที่ยงคืนมาแล้ว ไม่มีรถบัสวิ่งผ่านระหว่างเมือง เบอร์โทรของแท็กซี่ท้องถิ่นทุกเบอร์ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันตอนเราโทรหาว่ามันดึกเกินไปแล้ว และในขณะที่เรากำลังวางแผนกันว่าจะเดินไปซึ่งน่าจะกินเวลาราวชั่วโมงกว่าก็มีรถเก่า ๆ สีขาวคันหนึ่งขับผ่านมา พวกเราหยุดมองหน้ากันพักหนึ่งก่อนที่จะเริ่มวิ่งตามรถคั้นนั้น พยายามตะโกนและโบกเรียกสุดเสียงให้เขาจอด แล้วมันก็สำเร็จ ลุงคนขับจอดรถลงถามว่าพวกเรากำลังจะไปที่ไหน ก่อนที่จะขับรถพาเราไปส่งจนถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยถึงจะช้ากว่าเวลาที่วางแผนไว้ไปนิดหน่อย สองสาวนั่งรอเราหาทางเรียกรถแท็กซี่ ห้องพักที่เราได้จากผู้จัดงานเป็นห้องชั้นล่างของโรงแรมข้างทางเล็ก ๆ ที่มีสองชั้นเหมือนโรงแรมติดปั๊มน้ำมันข้างทางหลวงที่เราสามารถเห็นได้ในหนังฝรั่ง มีสองห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น แล้วก็ครัว พวกเราใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงหลังจากไปถึงแปรสภาพที่พักนั้นทั้งหมดให้กลายเป็นโกดังเก็บอาหารแห้งและตู้แช่วัตถุดิบสำหรับตลอดช่วงงานเทศกาล ตู้และชั้นวางของถูกดันไปอีกทางเพื่อหลบให้กับตู้เย็นและตู้แช่แข็ง โซฟาและพื้นห้องเกือบทั้งหมดถูกทับถมไปด้วยอาหารแห้งอย่างเส้นหมี่ แป้งขนมปังกรอบ ซอส และวัตถุดิบเครื่องปรุงรสจนแทบไม่มีที่ให้เดิน พื้นของห้องนอนทั้งสองห้องถูกใช้เป็นที่เก็บเครื่องครัวและข้าวของที่เหลือจนเราแทบต้องกระโดดลงเตียงเพราะไม่เหลือที่ให้เดินแล้ว ทุกเช้าเราต้องคอยมาสับสวิตช์เพื่อเลือกว่าจะให้น้ำไหลไปที่ไหนระหว่างห้องครัวกับห้องน้ำเพราะระบบท่อที่นี่ไม่สามารถส่งน้ำไปทั้งสองห้องพร้อมกันได้ ห้องครัวในตอนเช้าถูกใช้ไปกับการหั่นผัก เห็ด และวัตถุดิบทั้งหลายที่เราต้องเตรียมเพื่อขนไปยังแผงขายอาหารเล็ก ๆ …

Continue reading เทศกาลดนตรีครั้งแรกในประเทศอังกฤษ

โอโคโนมิยากิ พิซซ่าญี่ปุ่น

Abeno ร้านโอโคโนมิยากิกลางลอนดอน

ถ้าเราเดินข้ามฝั่งจากหน้า British Museum แล้วเดินต่อไปอีกหน่อยในถนนเส้นเล็ก ๆ เราจะเจอร้านอาหารที่ตกแต่งสะดุดตาจากร้านอื่นในบริเวณโดยรอบอยู่ร้านนึงที่มีป้ายรูปปลาคาร์ฟญี่ปุ่นและกันสาดสีฟ้าอยู่ข้างหน้า ทันทีที่เราก้าวเท้าข้ามประตูร้าน เสียงตะโกนต้อนรับเป็นภาษาญี่ปุ่นก็ดังขึ้นจากพนักงานทั้งร้าน ข้างในร้านเป็นห้องแถวแคบ ๆ ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำมันพืชและโอโคโนมิยากิ มีทางเดินตรงกลางร้านที่กว้างพอแค่ให้คนสองคนเดินสวนกันได้ ผนังร้านมีกลอนญี่ปุ่นกับภาพวาดจากภู่กันแขวนไว้เต็มไปหมดจนแทบมองไม่เห็นที่ว่างให้แขวนอะไรเพิ่ม ยกเว้นที่ว่างสุดด้านในร้านที่เว้นไว้ให้แอร์เก่า ๆ หนึ่งตัว ผนังข้างหนึ่งถูกทาเป็นสีฟ้าอ่อนมีโต๊ะแปดตัวที่เรียงยาวกันเป็นแถวติดผนัง ในขณะที่อีกฝั่งเป็นครัวเปิดสีขาวที่มีเชฟสาวชาวญี่ปุ่นยืนทำอาหารอยู่คนเดียวหลังบาร์และคอยส่งยิ้มกลับไปให้ลูกค้าที่เธอเผลอสบตาด้วยเป็นระยะ เมนูของร้านเต็มไปด้วยโอโคโนมิยากิหลากหลายไส้ที่ตั้งชื่อเมนูด้วยเมืองต่าง ๆ โอซาก้ากับวัตถุดิบคลาสสิคอย่างหมูสไลด์ ซัปโปโรที่ไส้ในเต็มไปด้วยอาหารทะเล หรือลอนดอนที่ใช้ชีสและเบคอนเป็นส่วนผสมหลัก โอโคโนมิยากิในร้านมีขนาดให้เลือกระหว่าง Deluxe กับ Super Deluxe ที่ราคาห่างกันแค่ £3 แล้วพอถามว่าขนาดต่างกันแค่ไหน พนักงานก็ทำมือเป็นวงกลมกะขนาดให้ดูบนโต๊ะก่อนจะแนะนำว่าถ้ากินเอาอิ่มคนเดียวสั่ง Super Deluxe ดีกว่า สุดท้ายเราก็เลยสั่งตามที่พนักงานแนะนำ ไม่นานหลังจากเรานั่งฟังเพลงญี่ปุ่นยุค 80 ที่เปิดคลอเบา ๆ กับเสียงพนักงานทั้งร้านที่พูดคุยกันเป็นภาษาญี่ปุ่น พนักงานเสิร์ฟคนเดิมก็เอาถ้วยที่เต็มไปด้วยส่วมผสมของโอโคโนมิยากิมาให้เราดูก่อนจะแนะนำส่วนผสมทีละอย่างให้ฟัง แล้วก็เริ่มราดน้ำมันลงบนกระทะร้อนกลางโต๊ะ เทส่วนผสมทุกอย่างลงไปปั้นเป็นแผ่นกลมที่เต็มไปด้วยอาหารทะเลจนแทบทะลักทั้งหมึก กุ้ง แซลมอน และหอยเชลล์ ก่อนจะหมั่นเดินกลับมาพลิกด้านอย่างระวังจนสุกดีก่อนจะโรยหน้าให้เราด้วยซอสโอโคโนมิยากิ มาโยเนส ผงสาหร่าย และปลาแห้ง รสชาติที่นี่ก็เหมือนที่เคยไปกินมาหลายร้านที่ญี่ปุ่น กะหล่ำหวานฉ่ำ กับไส้อาหารทะเลรสหวาน ตัดกับซอสที่มีรสเปลี้ยวนิดหน่ย …

Continue reading Abeno ร้านโอโคโนมิยากิกลางลอนดอน