แหลมทองโภชนา อาหารจีนแคะ ถนน.เจริญกรุง

เป็นช่วงเที่ยงวันเสาร์ที่ผมกลับจากการไปเรียนซอตามปรกติ แต่ด้วยความคิดอะไรสักอย่างในวันนั้นผมเลยตัดสินใจขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินไปลงที่สถานีวัดมังกร แทนที่จะขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้านตามปรกติ คิดไว้ว่าวันนี้มันว่าง ลองไปเดินเล่นหาอะไรกินก็แล้วกัน

ถนนตรงนั้นไม่ได้มีผู้คนคับคั่งเพราะเวลาตอนที่ไปถึงยังแค่ 11 โมงครึ่งไม่ถึงเที่ยงดี แถมยังไม่ใช่วันสำคัญหรือวันอะไรก็ตามแต่ตามความเชื่อที่จะทำให้คนแห่กันไปไหว้พระขอพรกันแถวนั้น

ผมเลี้ยวขวาออกจากสถานีและไปตามถนนเจริญกรุง ผ่านวัดมังกรที่คุ้ยเคยเพราะตั้งแต่เด็กก็จะมีญาติผู้ใหญ่ที่บ้านชวนให้ไปทุกปีในช่วงตรุษจีน ก่อนจะเลี้ยวซ้ายข้ามสี่แยกที่มีร้านเครื่องเพชรสองร้านตั้งอยู่ตรงหัวมุมฝั่งตรงข้ามเพื่อเดินเข้าซอยเจริญกรุง 12

ผมเดินเลี้ยวเข้าไปในซอยเพราะเห็นว่ามีคนมุงดูกันอยู่เต็มไปหมด พอไปถึงจึงพบว่ามีรถพญาบาลคันโตจอดปิดถนนไว้ทั้งเส้นเพื่อที่จะนำตัวคนป่วยออกจากบ้านหลังหนึ่งภายในซอย

ในระหว่างนั้นสายตาผมได้ไปสบกับคุณลุงคนหนึ่งที่กำลังยืนอยู่หน้าซอย “หาอะไรกินเหรอหนุ่ม มีร้านข้างบนอร่อยนะ ขึ้นไปเลยก่อนถึงศาลเจ้า” ลุงคนนั้นทักผมเหมือนรู้ว่าผมกำลังมาเดินหาของกิน ก่อนที่จะชี้มือไปยังบันไดเล็ก ๆ ข้างตัวตึกที่มีป้ายศาลเจ้าสีแดงขนาดใหญ่เขียนไว้ว่า ศาลเจ้าม้าเก็ง

หลังจากขึ้นบันไดไปถึงชั้นสองทางขวามือผมก็เห็นประตูของร้านอาหารที่เปิดรอรับแขกอยู่ แต่พอเดินเข้าไปร้านกลับเงียบสนิทไม่มีใครอยู่ในนั้นเลย มีแต่หลอดไฟที่เปิดสว่างไว้กับพัดลมเพดานตัวเก่าที่หมุนอยู่ช้า ๆ ผมเดินขึ้นไปต่อหวังว่าจะไปถามใครสักคนในศาลเจ้าว่าร้านอาหารเปิดหรือยัง แต่ก่อนที่จะเดินขึ้นไปถึงก็ได้ยินเสียงดังมาจากห้องครัวทางซ้ายมือ

มันเป็นเสียงของพี่เจ้าของร้านที่กำลังนั่งอยู่ในครัว “มากินข้าวเหรอ ขอโทษทีพอดีเชงเม้งอยู่ เดี๋ยวเปิดแอร์ให้นะ” เขาบอกกับผมก่อนจะจัดแจงพาผมกลับเข้ามาเปิดแอร์ให้นั่งในร้าน พร้อมกับหยิบเมนูชุดหนึ่งมาให้เราเปิดเลือก ตามมาด้วยน้ำชาร้อนหนึ่งกา

ในเมนูมีแต่อาหารน่ากินเต็มไปหมด แต่วันนั้นผมมาคนเดียวถ้าให้สั่งเกินหนึ่งหรือสองอย่างอาหารที่ออกมาคงจะเยอะจนกินไม่หมดแน่ หลังจากกวาดตาวนรอบเมนูอยู่เกือบห้ารอบผมก็ตัดสินใจสั่งอาหารมาสองอย่าง คือเคาหยกที่เป็นหมูสามชั้นตุ๋นกับผักในหม้อพร้อมเคาะลงจานให้กินในทันที กับเส้นหมี่ผัดข้าวหมาก

หลังจากนั่งรอไม่นานอาหารทั้งสองอย่างก็ถูกนำออกมาจากครัว ตัวหมูสามชั้นและผักถูกปรุงรสชาติมาให้เค็มกำลังดีกลมกล่อมไม่รสจัดจนเกินไปทำให้สามารถกินเปล่า ๆ ได้ เนื้อหมูอาจจะไม่นุ่มจนถึงกับละลายในปากแต่ก็ไม่เหนียวจนต้องเคี้ยวมาก ยิ่งราดน้ำจิ้มแคะที่ทางร้านเอามาให้ยิ่งทำให้กินได้ไม่หยุด แถมยังทำให้คิดไปตลอดว่าถ้าลองได้กินกับข้าวสวยด้วยก็คงจะดี

เส้นหมี่ผัดข้าวหมาก ใส่ถั่วลันเตา เห็ด ลูกชิ้น และปลาหมึกแห้ง รสชาติเค็มน้ำหวานตามแถมยังมีรสเปรี้ยวติดมานิด ๆ เป็นเมนูที่มีน้ำมันเยอะและตัวเส้นออกมันอยู่พอสมควร แต่ความนัวของการผัดกับน้ำมันนี่แหละที่ช่วยเป็นตัวผสานสามรสชาติที่บอกไปของจานนี้ให้เข้ากันอย่างลงตัว

ยิ่งกินก็ยิ่งเพลิน ลองเอาหมูไปผสมกับเส้น เอาน้ำจิ้มไปคลุกกับเส้น ผสมเมนูที่สั่งกินปนกันไปมาจนรู้ตัวอีกทีก็กินหมดเกลี้ยงจนไม่เหลืออะไรนอกจากความอร่อยและความถูกใจจนต้องจดร้านนี้เก็บไว้ในรายการ เพราะในอนาคตจะต้องกลับมากินอีกครั้งแน่ แต่ครั้งหน้าผมคงไม่มาคนเดียวแล้ว เพราะต้องพาเพื่อหรือญาติมากันให้เยอะ จะได้ช่วยกันสั่งอาหารที่น่าลองเต็มไปหมดมากินกันให้เต็มโต๊ะไปเลย

หมูตุ๋น เคาหยก