เวลาเราเล่น TRPG เราจะได้ยินกันตลอดเรื่องผู้เล่นเจ้าปัญหาแต่ละแบบ ตั้งแต่ Murder Hobo, metagaming, หรือผู้เล่นที่ไม่สนจะ Roleplay เอาแต่ดูตัวเลข Stat เพื่อสร้างตัว OP ในหลายสื่อหรือหลายครั้งที่เราได้ยิน ทุกคนจะชอบบอกว่าพฤติกรรมพวกนี้คือสิ่งที่ทำให้เกิดปัญหา รวมไปถึงแนะนำวิธีการรับมือหรือจัดการกับผู้เล่นเจ้าปัญหาในแต่ละแบบ แต่ถ้ามาคิดจริง ๆ พวกเขาเป็น ผู้เล่นเจ้าปัญหาจริงเหรอ ผมชอบบอกกับทุกคนที่รู้จักตลอดเวลาว่า Tabletop RPG เป็นกิจกรรมกลุ่มที่ทุกคนมาเล่นเพื่อความสนุกของตัวเองผ่านกิจกรรมที่ทำร่วมกัน และถ้าทุกคนที่มาเล่นไม่สนุกหรือมีประสบการณ์ดี ๆ กลับไป เกมวันนั้นก็ถือว่าเป็นเกมที่ล้มเหลวต่อให้จะมีคนมากกว่าครึ่งสนุกกับเกมวันนั้นก็ตาม เพราะอย่างนั้น ก่อนที่เราจะมองว่าผู้เล่นคนนี้เป็นคนเจ้าปัญหาไหม เราลองมาดูข้อสำคัญเกี่ยวกับ Tabletop RPG 5 อย่างกันก่อนไหม ทุกคนมีนิยาม Tabletop RPG ที่สนุก ไม่เหมือนกันทุกคนมีสไตล์การเล่นเกมที่ชอบต่างกันไม่ใช่ผู้เล่นทุกคนจะเข้ากันได้กับผู้เล่นทุกคนต่อให้ GM เก่งยังไง ก็ยังมีผู้เล่นที่ไม่เข้ากับสไตล์ของคุณถ้าเกมถูกปรับให้เอาใจทุกคนในกลุ่มที่ต่างกันมาก สุดท้ายเกมก็จะขาดจุดเด่น กลายเป็นเกมตลาด ๆ ที่ไม่น่าจดจำหรือโดดเด่นอะไร จาก 5 ข้อนี้จะเห็นชัดเลยว่า มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ Tabletop RPG ในแต่ละโต๊ะจะให้ประสบการณ์ที่เหมือนกัน ยิ่งถ้าใครลองเล่นเกมกับหลายกลุ่ม …
Author: Artikhun
Tabletop RPG 101: หน้าที่ของ GM คืออะไร
Tabletop RPG 101 จะเป็นชุดบทความสั้น ๆ ความที่ผมเขียนแนะนำเกี่ยวกับ Tabletop RPG ทั้งการรันเกม การเล่นเกม ในมุมมองของผม แต่สำหรับใครที่คาดหวังจะได้วิธี เทคนิค หรือสูตรสำเร็จแบบ 1 2 3 4 จงทำตามซะแล้วจะรันเกมเก่งเล่นเกมดี ข้ามมันไปได้เลยครับ เพราะผมไม่ยัดอะไรพวกนั้นเข้ามาในนี้แน่นอน ในบทความชุดนี้ผมจะเขียนแนวคิดกับมุมมองของผมที่มีต่อการเล่นและรัน TRPG ว่าจริง ๆ แล้วผมคิดว่า "แก่น" หรือจุดที่เราต้องสนใจหลักของมันคืออะไร ส่วนเรื่องเทคนิครันเกมเล่นเกมอะไรพวกนั้น ผมมองว่ามันเป็นของที่ใครอยากฝึกมันก็ทำกันได้ทั้งนั้นล่ะ แต่ถ้าเรามองเห็นภาพใหญ่ก่อน มันก็จะช่วยให้เราเลือกฝึกจุดแข็งจุดอ่อนได้ถูกจุดมากขึ้นได้ แต่ผมจะใส่แนวคิดที่ผมมองว่า มันคือ "แก่น" จริง ๆ ของการเล่นเกม TRPG ที่จะสามารถเอาไปต่อยอดได้ในอนาคตด้วยตัวเองกัน มาเข้าเนื้อหากันกับบทความแรกของเรากันเลย "หน้าที่ของ GM คืออะไร" หน้าที่ของ GM ในที่นี้ผมไม่ได้หมายถึงการควบคุม NPC การทำนู่นนี่ระหว่างเกม แต่เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบ ที่ GM ควรจะมองตัวเองว่าอยู่ในบทบาทไหน ก่อนอื่นผมจะขอแบ่งสไตล์ GM …
How to produce good work จะสร้างงานที่ดียังไง
We never aim to produce good work. When we cannot produce good work, creating good work is not our goal, it is making ourselves able to produce good work. After we can produce good work, getting better is our goal, not creating good work. Becoming the best is unnecessary except when that is our final …
Continue reading How to produce good work จะสร้างงานที่ดียังไง
Tailor and Influencer
As a marketer, working with an influencer is pretty similar to a bespoke tailor. We are not just using someone trendy, famous, or having more followers. But we find someone that resonates with what we want to express to the outside world. It is not just working with them one time and going away, never …
อะไรคือ Vampire the Requiem (เกมแวมไพร์ที่ไม่ใช่ Vampire the Masquerade)
ชื่อเกม Vampire the Masquerade น่าจะเป็นอะไรที่ผ่านตาทุกคนกันมาเยอะมากเลยในช่วงนี้ โดยเฉพาะเกมคอมชื่อดังอย่าง Vampire the Masquerade Bloodline (ที่ภาค 2 ก็ไม่รู้จะเสร็จตอนไหน) แต่ที่จริงแล้วเกม Vampire the Masquerade มีจุดเริ่มต้นมาจากเกม Tabletop Role-playing Game ตั้งแต่ปี 1991 และด้วยชื่อเสียงของมัน คนส่วนใหญ่ก็เลยชอบลืมกันไปว่า Masquerade ยังมีเกมน้องชายอยู่อีกเกมหนึ่งที่ชื่อว่า Vampire the Requiem แล้วผมดันชอบมันมากกว่า Masquerade ซะด้วย วันนี้เลยอยากจะเอาเกมนี้มาแชร์ มาชวนกันหน่อย เผื่อใครที่เคยเล่นหรือผ่านตา Masquerade มาแล้วจะได้ลองมาทำความรู้จักกับเกมแวมไพร์อีกเกมกันบ้าง ในโลกของ Vampire the Requiem ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็น Kindred หรือที่เราเรียกคุ้นเคยกันว่าแวมไพร์ แวมไพร์ในเกมนี้นั้นใช้ชีวิตแฝงตัวอยู่ในสังคมมนุษย์ปรกติมาตลอดหลายพันปี เป็นนักล่าที่อยู่ในจุดบนสุดของห่วงโซ่อาหาร หลบซ่อนอยู่ในมุมมืด คอยชักใยผู้มีอิทธิพลต่าง ๆ อยู่เบื้องหลัง กุมอำนาจไว้มากมายในกำมือไม่ต่างกับลาสบอสในเกมกับหนัง ลักษณะแวมไพร์ในเกมนี้ถ้าใครนึกภาพไม่ออกก็เอาแวมไพร์ของ Anne Rice …
Continue reading อะไรคือ Vampire the Requiem (เกมแวมไพร์ที่ไม่ใช่ Vampire the Masquerade)
Tabletop RPG 101: เล่น Tabletop RPG ทอยเต๋าตอนไหนดี ?
ภาพปกจาก Coco Zinva - Pixabay เมื่อไม่นานมานี้ผมได้นั่งคุยกับเพื่อนคนหนึ่งเรื่องทอยเต๋า ก็เลยอยากแวะมาเขียนอะไรหน่อยเกี่ยวกับเรื่องนี้ การทอยลูกเต๋านี่จะเรียกว่าเป็นเรื่องพื้นฐานของ TRPG ก็ได้ แต่พอเอาเข้าจริง GM หลายคนกลับไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับมันสักเท่าไหร่ แถมพอมาตั้งใจดูจริงจัง GM แต่ละคนก็ยังมีสไตล์การเรียกทอยเต๋าที่ต่างกันไปอีก ถ้าใครได้มีโอกาสลองเล่นเกมกับ GM หลายคนก็จะพอเห็นภาพ ว่าถ้าจับการทอยเต๋ามากางเป็นเส้นตรง ปลายสุดทางสองข้างก็คงเป็นฝั่งหนึ่งมี GM ที่เรียกให้ผู้เล่นทอยเต๋ากับทุกอย่าง ตั้งแต่หาของบนโต๊ะ นึกข้อมูลที่จำได้ ไปจนถึงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แทบทุกอย่างที่นึกได้ อีกด้านตรงข้ามก็คือ GM ที่แทบไม่เรียกทอยเต๋าเลยเว้นแต่จะเข้าฉากต่อสู้จนผู้เล่นไม่รู้อัพสกิลมาทำไม ซึ่ง GM ส่วนใหญ่ก็จะมีสไตล์การเรียกทอยอยู่สักจุดระหว่างสองฝั่งนี้นั่นล่ะ (ในที่นี้เราจะไม่พูดถึงการ ทอยตามหนังสือหรือทอยตามใจ GM นะ อันนั้นน่าจะเก็บเป็นอีกหัวข้อได้เลย) แล้วจากที่ผมได้คุยหรือเล่นด้วยมา GM ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ฝั่งเรียกทอยบ่อยกันมากกว่าทอยน้อย ซึ่งส่วนตัวผมเองไม่ค่อยชอบสไตล์การทอยแบบนี้เท่าไหร่ โดยเฉพาะการทอยในสถานการณ์ที่เมื่อทอยพลาดแล้วจะไม่ส่งผลกระทบอะไรกับเกมในการดันให้เรื่องราวมันน่าสนใจขึ้น แต่เป็นการทอยแค่เพื่อให้รู้ว่าทำได้หรือไม่ได้เฉย ๆ วันนี้ก็เลยมานั่งเขียน บอกเล่าปนบ่นให้ทุกคนอ่านกับหลักการทอยเต๋าส่วนตัวของผมที่มีอยู่ง่าย ๆ ประมาณ 4 ข้อกัน เผื่อใครอ่านแล้วชอบใจก็เอาไปใช้ …
Continue reading Tabletop RPG 101: เล่น Tabletop RPG ทอยเต๋าตอนไหนดี ?
The Circus of Horrors
สิ่งหนึ่งที่ยังคงทำให้เราตื่นตาได้เสมอคงหนีไม่พ้นการแสดงสดต่อหน้าผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน ละครเวทีในโรงละครขนาดใหญ่ ลิเกแถววัดใกล้บ้านสมัยยังเป็นเด็ก การแสดงแต่ละแบบก็ย่อมมีเรื่องให้เราใจเต้นได้ต่างกันไป ทั้งจากเพลงประกอบ การแสดง เรื่องราว แต่สิ่งหนึ่งที่ถึงแม้เราจะดูมันก็ครั้งก็ยังคงประทับใจกับมันทุกรอบ ก็คงหนีไม่พ้นคณะละครสัตว์และการแสดงในนั้น นักกายกรรมที่เหินไปบนอากาศราวกับเวทมนตร์ สิงห์นักบิดที่แสดงโชว์เสี่ยงตายต่อหน้าผู้ชมนับร้อย การแสดงโยนรับของที่ทำให้คนประสาทสัมผัสช้าอย่างเราตะลึงทุกครั้ง ดนตรีประกอบที่เร้าใจและจังหวะการแสดงที่สมบูรณ์แบบ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์มากสำหรับเราในวัยเด็ก ไม่คิดเลยว่าเราจะมีโอกาสได้มาชมการแสดงแบบนี้อีกครั้งหลังจากผ่านมาเป็นสิบปี
Snapshot
เราเป็นคนชอบภาพ Snapshot มาก รูปถ่ายเกิน 90% ของเราเป็นรูปที่เราสแน็ปเร็ว ๆ โดยแค่หยิบกล้องขึ้นมาแล้วก็กดยิงเลย (นั่นคือเหตุผลที่เราหันมาติด Compact แทนกล้องตัวใหญ่) บางทีรูปมันก็มัวบ้าง ไม่ชัดบ้าง แต่ถึงแบบนั้นเราก็ยังชอบมันอยู่ดี พูดตามตรงก็คงไม่มีข้ออ้างอะไรนอกจากเราเป็นคนถ่ายรูปที่ขี้เกียจ เราขี้เกียจจัดองค์ประกอบภาพ เราขี้เกียจเล็งภาพให้ดี สิ่งที่เราทำก็แค่ยกกล้องขึ้นมา แล้วบันทึกโลกในแบบที่เราเห็นลงไป ว่าวันนี้ เวลานี้ ในที่แห่งหนึ่ง มีคนสองคนนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินด้วยกัน เราไม่รู้หรอกว่าคนในภาพจะจำเหตุการณ์ในวันนี้แบบไหน เรื่องจริงที่เกิดขึ้นระหว่างเขาสองคนคืออะไร หรือผ่านไปอีกสิบปีเขาจะยังจำวันนี้ได้ไหม แต่สำหรับเราวินาทีนี้มันจะอยู่กับเราไปตลอด อยู่บนกระดาษที่ถูกพิมพ์ภาพถ่ายนี้ลงไป แล้วมันจะไม่หายไปไหนจนกว่าภาพถ่ายนั้นจะถูกทำลายซึ่งอาจใช้เวลาหลายสิบหรือเป็นร้อยปี บางคนฟังดูมันอาจจะน่าเกลีด แต่เรามองว่าการได้ถ่ายรูปสำหรับเรามันคือ Privilege อย่างหนึ่ง มันเป็น Privilege ที่เราได้บันทึกเสี้ยวหนึ่งของชีวิตใครสักคนลงไปในภาพถ่ายของเราและเก็บเอาไว้ตลอดไป ไม่ว่าคนที่อยู่ในภาพจะลืมเรื่องในวันนั้นไปแล้วหรือยัง
คุณป้าฝนตก
เรายืนอยู่ริมหน้าต่าง กำลังกินข้าวเที่ยง (ใช่ ข้าวเที่ยงเราคือไอติม)ท้องฟ้าข้างนอกเริ่มมืด ลมแรง เมฆฝนสีดำเริ่มก่อตัว เรานึกถึงคุณป้าคนหนึ่ง ที่เราเจอที่เกียวโต คืนนั้นฝนตก ลมแรง เรานั่งกินโอเด้งชามโตอยู่ในร้านอาหารขนาดเล็ก ทั้งร้านมีแค่สามโต๊ะมีลูกค้าคนใหม่เข้ามา เป็นคุณป้าคนหนึ่ง ค่อนข้างอวบ ผมทอง หน้าตาดูเป็นมิตร อายุคงไม่ต่ำกว่าห้าสิบห้า คุณป้ามานั่งโต๊ะเดียวกับเรา แล้วชวนเราคุย พวกเราพูดคุยไปมาจนไปถึงสภาพดินฟ้าอากาศ เราบ่นว่าวันนี้ฝนตกทั้งวันคุณป้าคนนั้นหัวเราะ เธอมาจากอังกฤษ คุณป้าคนนั้นพูดว่า "ถ้าคิดว่าฝนตกแค่นี้น่ารำคาญแล้ว ลองไปอยู่ที่อังกฤษสิ" ตอนนี้เรามาอยู่ที่อังกฤษได้แปดเดือนกว่าแล้ว ถึงป้าคนนั้นที่เราไม่รู้จักชื่อ "ฉันเชื่อป้าแล้ว"
— Life is full of horror —
The most disturbing parts of our lives don’t exist in the exotic or grotesque but in the way our partner’s eyes dart out the window just after we’ve kissed them, the way our kids shout out in dreams we can never know, the way our neighbours leave their lights on all night long, the way …